มิกซ์เสียงสุดมันส์ด้วย เครื่องเสียงดีเจ

หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ฟังเพลงผ่านสถานีวิทยุกันมาบ้าง หรืออาจจะเคยเห็นคนที่ทำหน้าที่เปิดเพลง สร้างความเอ็นเตอร์เทนในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเรามักจะเรียกรวม ๆ ว่าคนที่ทำหน้าที่นี้คือ DJ วันนี้เราจึงมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับดีเจมาฝาก พร้อมแนะนำ เครื่องเสียงดีเจ แต่ละแบบ ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูได้เลย

ดีเจทำหน้าที่อะไร พร้อมแนะนำ เครื่องเสียงดีเจ ที่ต้องมี

ดีเจ DJ (Disc Jockey) นั้นคือคนที่คอยเล่นเพลง ให้ความบันเทิงตามช่องทางต่าง ๆ เช่น ดีเจสถานีวิทยุ ที่คอยพูดคุยและเปิดเพลงให้เราฟังตามสถานีวิทยุต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันนี้ อาชีพดีเจนั้นแตกแขนงไปอย่างหลากหลาย ทั้งการเป็นดีเจในงานเลี้ยง สถานบันเทิง นอกจากจะเปิดเพลงตามปกติแล้ว ยังมีการมิกซ์เสียงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงมากขึ้น ซึ่งก็ต้องมีการฝึกฝนให้ชำนาญ หลายคนจึงใฝ่ฝันว่าอยากจะลองทำอาชีพนี้ดูบ้าง

อยากฝึกเป็น DJ ควรมี เครื่องเสียงดีเจ อะไรบ้าง

อุปกรณ์สำหรับคนที่อยากเป็น DJ เบื้องต้น เครื่องเสียงดีเจพื้นฐานที่จำเป็น มีดังนี้

1. DJ Controller

เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมการทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ ที่จะใช้ทั้งควบคุมการเล่น การหยุด เสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ของานดีเจ ซึ่งจะช่วยให้การเล่นเพลงสะดวกขึ้น ไม่ต้องควบคุมผ่านเมาส์ DJ Controller นั้นมีปุ่มควบคุมอยู่ที่ตัวเครื่อง การที่เราเห็นว่า DJ กำลังบิด ๆ หมุนปุ่มอยู่ นั่นก็คือการควบคุมด้วยฝีมือของ DJ เอง โดย DJ Controller นั้นมีให้เลือก 2 ประเภท คือ ประเภทที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์และต้องมี Sound card ต่อพ่วงอีก 1 ชิ้น กับประเภทที่มี Built-in Sound card ภายในเอง อย่างหลังนี้จะช่วยให้การทำงานดีกว่า คุณภาพเสียงดีกว่า

แนะนำ DJ Controller รุ่นน่าสนใจ

• Pioneer DJ DDJ-REV1-N

เครื่องเสียงดีเจ SCRATCH-STYLE แบบ 2 ชาแนล ทำงานร่วมกับโปรแกรมดีเจได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้มี Built-in Sound card 24 bit/48 kHz ช่วงความถี่ 20 – 20,000 เฮิรตซ์ Signal-to-Noise Ratio 103 dB รุ่นนี้ต่อไมโครโฟนได้ 1 ตัว (แจ็ค TS ขนาด 1/4 นิ้ว) มีช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 ม.ม. สำหรับอุปกรณ์ ตัวจานขนาดใหญ่ที่ช่วยในการเลียนแบบการ SCRATCH แผ่นเสียงที่ใช้งานง่าย ให้อารมณ์ DJ แบบเต็มที่ ใช้ได้ทั้งมือใหม่หัดเล่นและ DJ มืออาชีพ

• Pioneer : DDJ-SB3 

DJ Controller ที่เหมาะสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ มี Built-in Sound card 24 bit/44.1 kHz ในตัว ไม่ต้องซื้อมาต่อเพิ่ม เชื่อมต่อไมโครโฟนได้ 1 ตัว และมีช่องสำหรับเสียบหูฟังมอนิเตอร์ได้ 1 ตัว ควบคุมได้สูงสุด 4 แผ่นดิสก์ แผ่นจานคู่ชุบอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ Scratch แผ่นได้เร้าอารมณ์ ควบคุมด้วยโปรแกรม Serato และคุณภาพเสียงมาจาก Onboard Audio ใช้งานง่ายแบบ Plug and Play เสียบแล้วใช้งานได้เลย มือใหม่ก็ใช้งานง่าย มือเก๋าก็ใช้งานสะดวกแบบมือโปร 

2. Power Amplifier Mixer

อุปกรณ์ที่เรียกว่า แอมป์หรือมิกเซอร์นั้นเป็นอุปกรณ์ขับเสียงออกจาก DJ Controller เพื่อควบคุมระบบเสียง โดยที่ไม่ต้องควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์หรือซอฟต์แวร์ จะทำให้การควบคุมมีความสะดวก ให้คุณภาพเสียงที่ดี

แนะนำ Power Amplifier Mixer รุ่นน่าสนใจ

• PROEURO TECH PRO-2500

เพาเวอร์แอมป์คลาส H เพิ่มภาคจ่ายไฟที่สามารถปรับแรงดันได้ ทำให้การขยายสัญญาณทำได้ดียิ่งขึ้น กำลังขยายสูงสุด 400 วัตต์ x 2 @ 4ohm หน้าจอแสดงผลพร้อมปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่าย มีสเตอริโอ ครอสโอเวอร์ในตัว มีระบบป้องกันช็อต โอเวอร์โหลด เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในห้องและกลางแจ้ง

• YAMAHA PMX602S/PMX602D

มิกเซอร์ กำลังขับ 450 วัตต์ Mixer Cordless Phone All-in-One รองรับการทำงานแบบ Bluetooth/USB/MP3 ช่องเสียบไมโครโฟนได้ถึง 6 ตัว ใช้งานร่วมกับ DJ Controller ได้อย่างง่ายได้ แผงปรับ EQ ที่ละเอียด ทำให้ควบคุมโทนเสียงอย่างที่ต้องการ พัดลมระบายอากาศขนาดใหญ่ ช่วยลดอุณหภูมิการทำงานได้เป็นอย่างดี 

3. Monitor Headphone

Monitor Headphone หรือหูฟังมอนิเตอร์ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ DJ ทุกคนต้องมี เพราะหูฟังมอนิเตอร์นั้นจะช่วยให้เราควบคุมเสียงเพลงได้อย่างชัดเจนผ่านการฟังเสียงจากหูฟัง

แนะนำ Monitor Headphone รุ่นน่าสนใจ

• Bang & Olufsen (B&O) Beoplay H95

หูฟังมอนิเตอร์แบบครอบหูระดับ High-end ไดร์เวอร์หูฟังทำจาก Titanium ขนาด 40 มม. คุณภาพเสียงที่ได้จึงดีเยี่ยม มีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ที่ปรับอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมในการใช้งาน เชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยระบบ Bluetooth 5.1 แม่นยำ รวดเร็ว ไม่สะดุด ใช้งานง่าย สั่งการผ่านการสัมผัสปุ่มควบคุมที่หูฟัง (Housing) แบตเตอรี่อึดใช้งานยาวนาน 30 ชั่วโมง รองรับการสั่งงานด้วยเสียงทั้ง Siri, Amazon Alexa, Google Voice Assistant ภายในติดตั้งไมโครโฟน 4 ตัว สนทนาได้คมชัด สวมใส่กระชับ ระบายความร้อนได้ดี เคสหูฟังผลิตจาก Aluminum แข็งแรง ทนทาน

• Audio Technica M60x

หูฟังมอนิเตอร์แบบครอบหู ที่ดีไซน์ให้มีขนาดเล็ก สวมใส่ง่าย น้ำหนักเพียง 200 กรัม แต่ให้พลังเสียงที่คมชัด ด้วยขนาดไดร์เวอร์ 45 มม. รองรับย่านความถี่ 15 – 28,000 Hz เชื่อมต่อการทำงานด้วยสาย AUX ขนาด 3.5 มม. วัสดุทำจากโลหะมีความแข็งแรงทนทานสูง นับว่าเป็นหูฟังที่น่าใช้งานตัวหนึ่ง

เครื่องเสียงดีเจ ใช้งานได้กับงาน DJ แบบไหนบ้าง

การนำ เครื่องเสียงดีเจ ไปใช้งานด้าน DJ นั้นทำได้หลากหลาย ทั้งงานเปิดเพลงให้ผู้ฟังเกิดความลื่นไหลในการฟัง โดยในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่ได้ให้ DJ สมัครเล่นทั้งหลายได้จัดรายการแบบออนไลน์กันมากขึ้น ถือเป็นการเริ่มต้นงาน DJ ได้ดีทีเดียว หรือจะเป็น DJ SCRATCH ที่เปิดเพลงโดยใช้เทคนิคการ SCRATCH แผ่น เพื่อเพิ่มลูกเล่นในการสร้างความสนุกให้กับผู้ฟัง โดยพบมากตามสถานที่ที่เน้นการเอ็นเตอร์เทนคนดูให้เกิดความสนุกสนาน

อุปกรณ์ในการทำงานเป็นDJนั้น เริ่มต้นไม่ยาก แต่การที่จะเป็น DJ มากความสามารถย่อมต้องใช้การฝึกฝน การเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อนำมาใช้งาน ควรเลือกให้ดี เพราะจะได้อุปกรณ์ที่ตรงใจและใช้เล่น DJ ที่เรารักได้อย่างมีความสุข

ที่มาข้อมูล: siamscratch , sounddd , inearbeat