วิธีเลี้ยง หนูแกสบี้ สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง

หนูแกสบี้ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า หนูตะเภา มีการสันนิษฐานกันว่าอาจจะถูกนำเข้ามาในบ้านเราโดยชาวจีนผ่านทางเรือสำเภา โดยหนูชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ เป็นหนูที่ไม่นิยมนำมาประกอบอาหารเนื่องจากมีเนื้อที่ไม่อร่อย ปัจจุบันได้มีการนำไปผสมกับพันธุ์ต่างประเทศจึงทำให้มีรูปร่างที่สวยงามไปกว่าพันธุ์ดั้งเดิมมากและมีให้ได้เลือกหลายสายพันธุ์ ทั้งแบบขนสั้น ขนยาว และแบบสีสวยงาม จึงทำให้กลายมาเป็นหนูที่นิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เลี้ยงเพื่อความสวยงาม บางครั้งก็ใช้เป็นหนูทดลอง อีกทั้งยังมีราคาที่แพงพอสมควรตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว

หนูแกสบี้ เหมาะกับเราหรือไม่

สำหรับท่านใดที่กำลังหลงใหลในความน่ารักและต้องการหาซื้อมาเลี้ยง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าหนูชนิดนี้กันอีกสักหน่อย เพื่อที่จะได้ตรวจเช็กความพร้อมของตัวเองว่าจะสามารถเลี้ยงได้ดีมากน้อยแค่ไหน หรือเหมาะที่จะนำมาเลี้ยงหรือไม่

• เป็นหนูที่มีอายุอยู่ได้ประมาณ 5 – 7 ปี เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความจำดี สามารถจดจำเสียงฝีเท้าของเจ้าของได้อย่างแม่นยำ
  
• เป็นหนูที่ชอบกินพืชที่มีกากใย โดยเฉพาะหญ้าขน เพราะร่างกายของหนูพันธุ์นี้จะทำการย่อยอาหารด้วยแบคทีเรีย จึงไม่เหมาะที่จะให้กินแต่อาหารชนิดเม็ด
  
• มีความต้องการสารอาหารอย่างวิตามินซีเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินชนิดนี้ขึ้นมาเองได้ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับจากการกินอาหารอย่างอื่นเข้าไป เช่น ฝรั่ง หรือ วิตามินซีสกัด เควี่ฟรุต
  
• เป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องเอาใจใส่ดูแลในเรื่องการอาบน้ำ การไดร์เป่าขนให้แห้ง พร้อมกับหมั่นหวีขนบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ขนพันกันจนเป็นก้อน โดยแนะนำให้อาบน้ำ 2 อาทิตย์ต่อครั้ง
  
• ฉี่มีกลิ่นแอมโมเนีย ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองจมูกของหนูและผู้เลี้ยงได้ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องหมั่นทำความสะอาดกรงอยู่เสมอ
  
• เป็นสัตว์ตัวเล็ก หากต้องได้รับการรักษาจะต้องอาศัยหมอเฉพาะทาง เพราะใช่ว่าหมอตามคลินิกสัตว์ทั่วไปจะสามารถคำนวณปริมาณยาได้
  
• เป็นสัตว์กินพืชจึงไม่มีทักษะในการล่าเหยื่อหรือการเรียนรู้การใช้ชีวิตตามธรรมชาติได้ดีเท่ากับสัตว์กินเนื้อ อีกทั้งยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น จึงไม่เหมาะที่จะนำไปให้เด็กเล็ก ๆ เลี้ยง ผู้เลี้ยงควรมีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และที่สำคัญบ้านไหนเลี้ยงแมวหรือหมาควรดูแลให้ดี เพราะแกสบี้เป็นสัตว์ที่ไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเองและไม่มีทางที่จะวิ่งหนีสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นได้ทันอย่างแน่นอน

วิธีเลี้ยง หนูแกสบี้ สำหรับมือใหม่

• ควรเลือกกรงให้เหมาะสม ขนาดของกรงจะต้องใหญ่พอที่จะมีพื้นที่ให้หนูเดินเล่น เพราะหากกรงเล็กเกินไปจะทำให้เครียดได้ และหากเป็นกรงที่มีตะแกรงจะต้องมีที่รองให้เดินได้ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็อาจจะทำให้เท้าเป็นแผลอักเสบที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
  
• อาหารหลักควรเป็นหญ้าแห้ง 80% โดยเน้นย้ำว่าจะต้องเป็นหญ้าแห้งไม่ใช่อาหารเม็ด เพราะหญ้าแห้งจะมีปริมาณของไฟเบอร์และสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้ง หนูแกสบี้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องกินอาหารที่มีความแข็งเพื่อช่วยลับฟันของตนไม่ให้ยาวเกินไปอีกด้วย
  
• ถ้าหากมีอาการหายใจแรง มีเสียงครืด ๆ และมีน้ำมูก ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพราะนั่นคือสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าหนูมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและไม่สามารถที่จะหายใจเองได้ จำเป็นที่จะต้องได้รับการฆ่าเชื้ออาการถึงจะดีขึ้น
  
• วิธีการอุ้มจะต้องใช้มือหนึ่งประคองตัวแกสบี้และอีกมือหนึ่งรองที่ก้นไว้ ทุกครั้งที่จะอุ้มออกจากกรงไม่ควรต้อนนานเกินไปเพราะจะทำให้เกิดความเครียด และในขณะที่วางกลับเข้ากรงควรให้หันหน้าเข้าหาตัวเราเพื่อป้องกันไม่ให้ดิ้นก่อนที่จะลงถึงพื้น
  
• ไม่ควรนำแกสบี้ตากแดดโดยตรงเพราะอาจจะทำให้ร้อนจนเป็น Heat Stroke ได้ ควรให้ตากแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าเพื่อเป็นการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

อาหารของแกสบี้

นอกจากเรื่องของวิธีการเลี้ยงและดูแลแล้ว เรื่องของอาหารการกินของหนูชนิดนี้ก็มีความสำคัญมาก ๆ เช่นกัน สำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงหรือมือใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเอาไว้ด้วย

1. หญ้าแห้ง

จำเป็นอย่างมากที่จะต้องกินอาหารประเภทหญ้าแห้ง เพราะเป็นแหล่งรวมของไฟเบอร์ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่มีความแข็งเมื่อใช้ฟันแทะจะทำให้ฟันสึกและไม่ยาวจนเกินไปด้วย

2. หญ้าสด

อาหารที่แกสบี้ชอบมากและขาดไม่ได้เลยก็คือหญ้าสดโดยเฉพาะหญ้าขน แต่ก่อนที่จะนำไปให้เจ้าหนูผู้น่ารักกินควรล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วผึ่งให้น้ำสะเด็ดก่อนค่อยนำไปให้กินได้

3. อาหารที่มีวิตามินซี

แกสบี้จำเป็นที่จะต้องได้รับวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน โดยแต่ละตัวต้องการวิตามินซีประมาณวันละ 10 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และต้องการเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อตั้งท้อง สำหรับวิตามินซีสามารถหาได้จากผักและผลไม้ อาทิ แคร์รอต ผักกาดหอม แตงกวา แอปเปิ้ล มะม่วง ฝรั่ง เป็นต้น

4. อาหารสำเร็จรูป

ในปัจจุบันมีให้ได้เลือกมากมายทั้งผลิตในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีสารอาหารที่ครบถ้วนด้วย แต่ควรเลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ ทุกครั้งเมื่อเปิดใช้แล้วควรเก็บไว้ในที่แห้งสนิทและควรใช้ให้หมดภายใน 1 เดือน และหลีกเลี่ยงการใช้อาหารสำหรับกระต่าย เพราะเป็นอาหารสำเร็จรูปที่มีคุณค่าทางอาหารค่อนข้างน้อยกว่าความต้องการของแกสบี้ อีกทั้งยังเป็นอาหารที่ไม่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญด้วย

5. อาหารเสริม

ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องให้อาหารเสริมสลับกับอาหารที่ให้เป็นประจำบ้าง เพื่อลดความจำเจและการได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น เช่น อาหารขบเคี้ยวต่าง ๆ

จะเห็นได้ว่าแกสบี้นั้นเป็นสัตว์ตัวน้อยที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ดังนั้นการได้ทำความรู้จักก่อนตัดสินใจซื้อมาเลี้ยงถือว่าสำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะวิธีการเลี้ยงและอาหาร เพราะเจ้าแกสบี้เป็นสัตว์กินพืชที่ต้องการสารอาหารอย่างเพียงพอสำหรับทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เพื่อที่จะได้สร้างความสุขให้กับผู้เลี้ยงไปในทุก ๆ วัน ถ้าหากคุณต้องการหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงาก็ลองคิดดูว่าแกสบี้จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับคุณ คุณจะรักสัตว์เลี้ยงชนิดนี้และจะคอยดูแลเอาใจใส่ไปจนตลอดช่วงอายุของเค้าได้หรือไม่

ที่มาข้อมูล: thairath , rodentcare , sanook , friendpetshop , my-best