เวชสำอาง เป็นชื่อเรียกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเครื่องสำอาง และมีคุณสมบัติของความเป็นยาเข้ามาประกอบกันทำให้สามารถใช้รักษาผิวที่มีปัญหา เช่น สิวอักเสบ ใบหน้าเป็นฝ้า มีรอยด่างดำ เป็นกระ ซึ่งผลลัพธ์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะชัดเจนกว่าเครื่องสำอาง เช่น สิวและฝ้าจางลง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่โฟกัสในเรื่องของประสิทธิภาพการออกฤทธิ์มากกว่าการเสริมความสวยงาม และมีสารสกัดที่เป็นตัวยาต่าง ๆ ผสมอยู่ในปริมาณมากพอที่จะทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงภายหลังจากการใช้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ไม่ได้ดูแลแค่เรื่องผิวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเส้นผม หนังศีรษะ และฟัน อย่างเช่น แชมพูยา โลชั่นบำรุงหนังศีรษะ ยาสีฟัน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับช่องปาก
เวชสำอาง มีกี่ประเภท
ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ไม่ได้มีไว้แค่รักษาผิวที่มีปัญหาอย่างเดียว แต่ยังมีไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นอีกด้วย ซึ่งถ้าเราแบ่งตามจุดประสงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ จะมีอยู่ 4 ประเภท ดังนี้
- ผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไขผิวมีปัญหา
ให้ผลในการรักษาผิวที่เป็นสิว เช่น สิวอุดตัน สิวอักเสบ ฝ้าแดด กระ ใต้ตาคล้ำ จุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แก้ปัญหาแต่ละอย่างก็จะมีตัวยาแตกต่างกันไป เช่น ผลิตภัณฑ์รักษาสิวจะมีตัวยาหลักคือ เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์ ซัลเฟอร์ และกรดซาลิไซลิก ตัวยาเหล่านี้มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอุดตันไม่ทำให้สิวใหม่เกิดขึ้น ส่วนสิวเก่าก็จะค่อย ๆ แห้งไป ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
- ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผิว
ผลิตเพื่อปรับสภาพผิวมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ เอสเซนส์ น้ำตบ คล้ายกับสกินแคร์ แต่เพิ่มความเข้มข้นของตัวยาเพื่อปรับสภาพผิวหน้าให้อยู่ในสภาวะสมดุลก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงตัวต่อไป ผิวที่สมดุลจะเปิดรับครีมบำรุงได้ดียิ่งขึ้นและยังช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ด้วย
- ผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิว
เครื่องสำอางกึ่งยาที่ใช้เพื่อบำรุงผิวนั้นได้มีการผลิตออกมาในรูปแบบของเซรั่มและมอยเจอร์ไรเซอร์ เช่นเดียวกับสกินแคร์ และยังมีผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ผสมตัวยาปกป้องผิวที่เข้มข้นอีกด้วย สามารถใช้ป้องกันรังสียูวีอย่างได้ผลมากกว่าครีมกันแดดทั่วไป
- ผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาดผิว
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะไม่ค่อยมีฟองจึงถนอมผิวได้ดีไม่ทำให้ผิวแห้ง มีให้เลือกใช้หลายรูปแบบตั้งแต่ Cleansing Water, Cleansing Oil, Cleansing Milk
เวชสำอางดีกว่าสกินแคร์อย่างไร
ด้วยความที่มีส่วนผสมเป็นตัวยาจึงช่วยแก้ปัญหาผิวตรงจุดและสามารถซึมลึกเข้าถึงเซลล์ผิวได้ ในระยะยาวจึงแก้ปัญหาได้หายขาด ดีกว่าสกินแคร์ทั่วไป เวชสำอางจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหากนำมาใช้ดูแลรักษาผิวอย่างต่อเนื่อง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์ชนิดนี้คือ ได้รับการพัฒนามาจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีแพทย์ผิวหนังเป็นผู้ควบคุมและผ่านการทดสอบอย่างถูกต้อง จึงเชื่อมั่นในความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน เพียงแค่เลือกใช้ให้ตรงกับปัญหาผิวหรือขอรับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้
ผิวแบบไหนควรใช้ เวชสำอาง
- ผิวแพ้ง่าย ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะมากกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แม้ว่าจะยังไม่ได้มีปัญหาอะไรให้ต้องรักษา แต่ผิวแพ้ง่ายเป็นผิวที่สุ่มเสี่ยงต่อปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ การใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะให้ความปลอดภัยแก่ผิวมากที่สุด
- ผิวเป็นดวงขาวหรือเป็นโรคด่างขาว ผิวแบบนี้ถ้าปล่อยให้โดนแดดหรือได้รับรังสียูวีจะออกเป็นผิวสีแทนจนกระทั่งกลายเป็นผิวคล้ำไปเลย เหมาะที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทครีมกันแดด
- ผิวมีกระ ผ้า ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากแสงแดดและพันธุกรรม
- มีสิวอักเสบ สิวเห่อ มีสิวเสี้ยนเยอะเกินไป
นอกจากผิวมีปัญหาแล้วผิวปกติทั่วไปก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้ โดยเน้นการป้องกันไม่ให้ผิวเสียและเน้นสูตรที่เป็นกลาง มีความอ่อนโยนเป็นหลัก
เคล็ดลับแก้ไขปัญหาผิวด้วย เวชสำอาง ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีความอ่อนโยนแต่ก็อาจมีตัวยาพิเศษบางอย่างที่ต้องระมัดระวังการใช้ ดังนั้น ก่อนใช้ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับยา อาการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน และในการใช้ผลิตภัณฑ์ควรปฏิบัติดังนี้
- เมื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการใช้ ควรเว้นช่วงเวลาสักระยะหนึ่งเพื่อพักผิวโดยการสลับไปใช้สกินแคร์ปกติ
- สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์ชนิดอื่น ๆ ที่ใช้อยู่ได้ ยกเว้นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Oil อาจจะยิ่งเพิ่มความมัน อุดตันผิวมากขึ้น
- เลือกใช้เวชสำอางและเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน จำหน่ายในร้านขายยาที่มีใบอนุญาต หรือใช้ตามคำสั่งแพทย์
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มควบคุมพิเศษควรได้รับการพิจารณาและคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
- ศึกษาเรื่องส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นอันตรายต่อผิวหน้าหรือไม่ และอย่าลืมสำรวจผิวของตัวเองด้วยว่ามีอาการแพ้หรือไวต่อสิ่งใดบ้าง
- ควรทดสอบผิวก่อนการใช้เสมอ เผื่อว่าผิวของเราอาจจะแพ้ส่วนผสมใดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการลองทาผลิตภัณฑ์ที่บริเวณข้อพับหรือที่หลังใบหูดูก่อน
ข้อควรระวังคือ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานอาหารและยา ซึ่งเป็นไปได้ว่าตัวยาต่าง ๆ ที่ผสมในผลิตภัณฑ์ยังไม่ได้มาตรฐาน การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีความเสี่ยงอย่างมาก อาจทำให้ผิวบางลงเมื่อใช้เป็นเวลานาน เมื่อผิวบางมาก ๆ จะทำให้เป็นผ้าหรือกระได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หากคิดจะใช้เครื่องสำอางกึ่งยาชนิดนี้ ควรตรวจสอบให้ดีอย่าเสี่ยงกับสินค้าที่ไม่ผ่าน อย.
ที่มาข้อมูล : rd-intermanu, pharmabeautycare, skinbiotechthai