ชวนเขียน ไดอารี่ งานอดิเรกช่วยพัฒนาตัวเอง

การเขียน ไดอารี่ งานอดิเรกที่ฮอตฮิตอย่างมากในปลาย ๆ ยุค 90 เรียกได้ว่าหนุ่มสาววัยรุ่นในช่วงหนึ่งต่างลุกขึ้นมาหยิบจับสมุดบันทึกเขียนไดอารี่เรื่องราวประจำวันกันอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันนี้กลับได้รับความนิยมน้อยลง เพราะด้วยเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์ทำให้การเขียนบันทึกดูจะเป็นเรื่องยุ่งยากและล้าสมัย วันนี้เราอยากมาแชร์ข้อดีของการเขียนไดอารี่เผื่อว่าใครที่สนใจอยากจะหางานอดิเรกทำเพิ่ม

ความหมายที่แท้ของการเขียนไดอารี่

การเขียนไดอารี่คือการเขียนบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งเหตุการณ์ทั่วไปที่พบเจอในแต่ละวัน ไปจนถึงเรื่องราวสุดพิเศษแสนประทับใจ แต่ในยุคปัจจุบันที่สื่อความบันเทิงและเทคโนโลยีเข้ามาเบียดบังเวลาชีวิตของเรามากขึ้น การเขียนไดอารี่ที่เคยฮิตในช่วงหนึ่งก็กลับเหลืออยู่เฉพาะกลุ่มคนเล็ก ๆ เพราะโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เข้ามาทำหน้าที่แทนหมดแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถทดแทนการเขียนไดอารี่ได้ เพราะการเขียนไดอารี่เป็นมากกว่าแค่บันทึกเรื่องราวความทรงจำ หากแต่เป็นการได้พูดคุยกับตัวเอง ได้ใช้เวลาช้า ๆ ตกผลึกความคิด การเขียนไดอารี่จึงเป็นมากกว่าแค่การเขียนบันทึก แต่คือการเปิดโอกาสให้เราเข้าใจตัวเองซึ่งสิ่งนี้เองที่หาไม่ได้จากที่อื่น

รวม 5 ประโยชน์ดี ๆ ของการเขียน ไดอารี่

ได้ทบทวนตัวเอง

การเขียนบันทึกเป็นเสมือนวิธีที่เราจะได้รวบรวมเรื่องราวในชีวิตแต่ละวันว่าเราไปพบเจออะไรมาบ้าง ทำอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้เราได้ทบทวนตัวเองว่าในแต่ละวันเราคิดอะไร ตัดสินใจอย่างไร ผลออกมาเป็นอย่างไร เราจะรู้ว่าทำอะไรพลาด อะไรเป็นบทเรียนที่ควรเรียนรู้จากมันและจะไม่ทำมันซ้ำอีก ซึ่งจะทำให้เราตกผลึกทางความคิดและนำไปพัฒนาตัวเองได้ การเขียนไดอารี่จึงเป็นวิธีที่จะทำให้เราได้มีโอกาสสำรวจชีวิตของตัวเราเอง

ฝึกสมาธิ

การเขียนไดอารี่ทำให้เราใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับกระดาษและปากกา ปล่อยใจและความคิดให้พรั่งพรูออกมาบนหน้ากระดาษ ถือว่าเป็นการช่วยฝึกสมาธิได้ดีอย่างหนึ่ง เป็นการปล่อยให้ตัวเองผละออกจากเทคโนโลยีและความบันเทิงเพื่อมาโฟกัสกับความเงียบสงบและสัมผัสกับใจตนเอง

บันทึกความทรงจำ

ไดอารี่เป็นบันทึกความทรงจำส่วนบุคคลที่ดีมาก เพราะเราสามารถเก็บมันเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวที่สำคัญหรือเหตุการณ์ประทับใจ การจดบันทึกจะช่วยไม่ให้หลงลืม เราสามารถกลับมาเปิดอ่านได้อยู่เสมอ บางเรื่องที่เราอาจลืมไปแล้วเราสามารถกลับมาย้อนความทรงจำได้จากในไดอารี่ที่เขียน

ฝึกทักษะการเขียน

แน่นอนว่าประโยชน์ที่จะได้จากการเขียนไดอารี่ก็คือทักษะการเขียนที่เพิ่มพูนขึ้น เราจะได้ฝึกจับประเด็นและเรียบเรียงเรื่องราว อีกทั้งยังเป็นการฝึกฝนการใช้ภาษา ลองสังเกตว่าภาษาที่เราใช้ในช่วงแรก ๆ ที่เริ่มเขียนกับในปัจจุบันนั้นมีความแตกต่างกัน นั่นแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของทักษะการเขียนที่เพิ่มขึ้น

ผ่อนคลายความเครียด

การเขียนไดอารี่เป็นวิธีการปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจและความเครียดที่เราไม่สามารถเล่าหรือระบายให้ใครรับรู้ได้ เราสามารถเขียนระบายสิ่งเหล่านี้ลงบนหน้ากระดาษส่วนตัวของเราได้ เพราะมันเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เราจะได้ปลดปล่อยโดยไม่มีใครมาคอยตัดสิน ช่วยผ่อนคลายความเครียดในใจได้ดี

การ เขียนไดอารี่ พื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้เข้าใจตนเอง

การเขียนไดอารี่เพื่อบำบัดและเข้าใจตัวเอง ช่วยให้เราค้นหาตัวเองและรู้ความต้องการของใจตัวเองได้ท่ามกลางยุคสมัยแห่งความผันผวนและวุ่นวาย การเขียนจะช่วยเยียวยาจิตใจได้วิธีหนึ่ง ซึ่งวิธีการเขียนแบบนี้เรียกว่า Free Writing ไม่มีรูปแบบอะไรที่ตายตัวแน่นอน เราสามารถเขียนออกมาได้อย่างอิสระ ปล่อยให้ความคิดพรั่งพรูออกมาโดยที่เราไม่หยุดเขียนเลย เริ่มง่าย ๆ ด้วยการกำหนดเวลาไว้ เช่น 5 – 10 นาที หรือจะ 30 นาที จากนั้นก็เขียน เขียน และเขียน ห้ามหยุดมือ ไม่ต้องสนใจรูปประโยค คำศัพท์ หรือภาษาที่ใช้ ขอแค่ห้ามหยุดเขียน ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรหรือมีการสะดุดไม่ต้องกังวลกับความเชื่อมโยงสามารถแตกประเด็นออกนอกเรื่องหรือจะเขียนวนอะไรได้หมดขอแค่อย่าหยุดเขียนจนกว่าจะครบเวลาที่ตั้งไว้ แต่พึงระลึกไว้ว่าไม่ใช่เป็นการเขียนด้วยความเร็วแข่งกับเวลา ไม่ต้องเร่งสปีด ค่อย ๆ เขียนแบบต่อเนื่อง

การเขียน Free Writing จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเขียนไดอารี่ที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ทำให้เราได้ปลดปล่อย และทำความเข้าใจกับตัวเองได้ดี เมื่อเขียนเสร็จแล้วลองย้อนไปอ่านว่าสิ่งที่เราเขียนนั้นสะท้อนอารมณ์ ตัวตน ทัศนะคติอะไรออกมาบ้าง เราก็จะได้พัฒนาการคิดและการเขียนไปพร้อม ๆ กับการสำรวจตัวเราเองไปด้วย ซึ่งหากเราทำจนเป็นกิจวัตรประจำวันการเขียนจะกลายมาเป็นงานอดิเรกที่ช่วยยกระดับและพัฒนาจิตใจ เราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น พัฒนาตัวเองได้ถูกทาง รู้ใจตัวเอง และเติบโตเป็นตัวเองที่ดีขึ้นได้ในทุก ๆ วัน

การเขียนไดอารี่จึงมีประโยชน์และข้อดีมากมาย ยิ่งยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีและความเร่งรีบ ทำให้เราฟุ้งซ่าน เสพติดกับความไว อยากแนะนำให้ลองหยุดพักหลีกหนีจากความวุ่นวายทั้งในชีวิตจริงและหน้าจอมาฟังเสียงของหัวใจตัวเองผ่านการเขียนไดอารี่ ซึ่งสามารถเลือกซื้อหาไดอารี่สักเล่มขนาดเหมาะมือ แล้วเริ่มลงมือสนุกกับการเขียนและค้นหาตัวเองกันได้เลย

ที่มาข้อมูล: readthecloud , riccoprint , wegointer