แนะนำวิธี ล้างแอร์ ทำตามได้ง่าย ๆ

ปัญหาแอร์ไม่เย็น น้ำหยด เป็นเรื่องปกติที่ผู้ใช้งานเครื่องปรับอากาศต้องเจอเป็นประจำอยู่แล้ว วิธีแก้ไขก็เพียงแค่ ล้างแอร์ ให้สะอาด ปัญหาก็จะหมดไป แต่รู้หรือไม่ว่าการล้างทำความสะอาดแอร์มีข้อดีมากกว่านั้น และช่วยยืดอายุเครื่องปรับอากาศให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ด้วยเหตุนี้เองเราจึงนำข้อดี วิธีการถอดล้าง รวมทั้งความสำคัญในการล้างเครื่องปรับอากาศมาฝากทุกคนกัน รับรองได้เลยว่าอยากหมั่นทำความสะอาดมากขึ้นแน่นอน

ทำไมการ ล้างแอร์ จึงมีความสำคัญ

1.ประหยัดค่าใช้จ่าย

เวลาฝุ่นละอองเข้าไปด้านในเครื่องปรับอากาศจำนวนมาก จะทำให้คอยล์เย็นและคอยล์ร้อนทำงานหนักขึ้น ซึ่งคอยล์เย็นทำหน้าที่ดูดอากาศจากด้านในแอร์ และแปลงเป็นลมเย็นด้วยสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) ส่วนคอยล์ร้อน คือ ส่วนที่อยู่ด้านในกับคอมเพรสเซอร์ โดยมีฟังก์ชันปล่อยอากาศลมร้อนออกไปด้านนอก ซึ่งลมร้อนที่ว่านั้นส่งมาจากคอยล์เย็น ยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อนด้วยแล้ว จะเห็นได้ว่าอุณหภูมิภายในห้องสูงจัด ทำให้แอร์ทำงานหนักอยู่แล้ว ถ้าหากไม่ล้างทำความสะอาดแอร์ ย่อมเร่งให้คอยล์ร้อน/เย็น ทำงานหนักกว่าเดิมอีก ดังนั้นการล้างเครื่องปรับอากาศ จึงช่วยให้ประหยัดพลังงานได้ราว 40% ต่อปี และยังทำให้ประสิทธิภาพของแอร์ยังทำงานปกติอีกด้วย

2.ฝุ่นละอองตัวร้าย

เมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศมาสักระยะ จากคนปกติร่างกายแข็งแรง อยู่ดี ๆ ก็มีอาการจามเป็นประจำ หรือเป็นหวัดได้เสียอย่างนั้น ถ้าสืบต้นตออาการของโรค ก็จะพบว่าอาการไข้หวัดเกิดจากฝุ่นละอองภายในบ้าน ซึ่งปัญหาฝุ่นไร หลายคนมักไม่ได้สังเกต สาเหตุก็คือ เห็นว่าห้องนอน/ห้องนั่งเล่น สะอาดดีอยู่แล้ว จึงไม่อยากเสียเวลาไปทำความสะอาด ในความเป็นจริง ฝุ่นละอองสามารถเข้ามาในห้องได้ง่ายมาก แค่เปิดกระจกรับอากาศก็เข้าไปเต็ม ๆ แถมปัจจุบันมีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจมากมาย เช่น PM2.5, ควันบุหรี่มือสอง หรือโควิด-19 ยิ่งถ้าอยู่ในจังหวัดที่มีปัญหามลพิษรุนแรง ออกจากบ้านทีก็มีอาการเริ่มไอแล้ว ดังนั้นเวลาอยู่ในบ้าน ยิ่งถ้าเปิดแอร์เป็นประจำ ฝุ่นละอองย่อมถูกดูดไปตามแผงคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนด้วย นานวันเข้าก็เกิดการหมักหมม และปล่อยฝุ่นละอองพวกนี้กลับเข้าร่างกายคุณ จึงควรรีบล้างเครื่องปรับอากาศทันที ในกรณีที่รู้สึกว่าแอร์เริ่มไม่เย็นแล้ว

3.ลดกลิ่นและปัญหาน้ำแอร์หยด

เมื่อไม่ได้ล้างเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน นอกจากเสี่ยงโรคจากฝุ่นละอองแล้ว ยังมีสิทธิ์เจอกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อีกด้วย โดยกลิ่นนี้เกิดจากกระบวนการทำงานของแอร์ที่หมุนเปลี่ยนความเย็นของตัวแอร์และความร้อนของอากาศภายในห้อง ซึ่งเมื่ออุณหภูมิเย็นและร้อนเจอกัน ย่อมทำให้เกิด “ความชื้น” ยิ่งถ้ามีฝุ่นละออง รวมทั้งเชื้อราเกาะแผงคอยล์เต็มไปหมดแล้ว ถึงตอนนี้ภายในเครื่องปรับอากาศของคุณ เปรียบเสมือนเป็นห้องเพาะเชื้อราขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ เพราะเชื้อราเติบโตได้ดีในที่ความชื้นสูง ที่ใดมีเชื้อราก็หมายความถึงกลิ่นเหม็นอับตามมาด้วยนั่นเอง และปัญหาก็ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ในกรณีฝุ่นละอองและเชื้อราก็อยู่หนาแน่นโดยไม่ได้ล้างทำความสะอาด จะทำให้เกิดปัญหาท่อน้ำทิ้งอุดตัน ยิ่งถ้าห้องของคุณมีความร้อนจัดและลดอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำเป็นเวลานาน จะเร่งให้ความชื้นหรือไอน้ำควบแน่นสูงขึ้น เกิดปัญหาน้ำแอร์หยดออกมาด้านนอก แทนที่จะไหลตามท่อน้ำทิ้ง เพราะโดนอุดตันด้วยฝุ่น+เชื้อราด้านในนั่นเอง

ขั้นตอนการ ล้างแอร์ ง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นช่าง ใคร ๆ ก็ทำได้

1. ปิดการใช้งานเครื่องปรับอากาศ ตัดไฟที่เบรกเกอร์ จากนั้นให้ถอดฝาครอบด้านหน้าออก แล้วนำฟิลเตอร์แอร์ออกมา
2. เตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ สเปรย์โฟมทำความสะอาด/ผงซักฟอก ไดร์เป่าผม และผ้าแห้ง
3. นำฟิลเตอร์แอร์ที่ได้นำมาล้างด้วยน้ำเปล่าเบา ๆ หรือใช้ผงซักฟอกซักล้างเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีฝุ่นหลงเหลืออยู่ จากนั้นใช้สเปรย์โฟมทำความสะอาดบริเวณแผงคอยล์เย็น 
4. เป่าให้แห้ง สามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการเป่าพัดลม หรือการใช้ไดร์เป่าผม จากนั้นใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด และนำไปตากแดด จนมั่นใจได้ว่าจะแห้งสนิทแล้วจริง มิเช่นนั้นเมื่อประกอบกับเข้าไป หยดน้ำจากแผงคอยล์ร้อนอาจทำให้มอเตอร์ด้านในลุกไหม้ได้

การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศก็สำคัญไม่แพ้กัน

1.เช็กน้ำยาแอร์

โดยปกติแล้วน้ำยาแอร์สามารถอยู่ได้นานถึง 10 ปี มีโอกาสน้อยมากที่น้ำยาแอร์จะหมดในช่วงเวลานี้ ส่วนมากปัญหามักเกิดจากที่เก็บน้ำยาแอร์เกิดการรั่วซึม คุณสามารถสังเกตสัญญาณว่าน้ำยาแอร์มีปัญหาหรือไม่ เช่น มีน้ำแข็งเกาะตัว และเครื่องปรับอากาศมีแต่ลมออกมา ส่งผลเสียต่อคอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักขึ้น และอาจเสื่อมสภาพได้ในภายหลัง ทั้งนี้เครื่องปรับอากาศที่ใช้งานเป็นเวลานานเกิน 5 ปี จำเป็นต้องเติมน้ำยาแอร์แล้ว เพราะท่อทองแดงเริ่มเก่า จนเสียดสีกันทำให้น้ำยารั่วซึมออกมา คุณอาจแก้ปัญหาด้วยการเติมน้ำยาแอร์ด้วยตนเองก็ได้ถ้าไม่อยากเสียสตางค์ โดยเลือกใช้น้ำยาที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

2.ใช้อุปกรณ์ช่วยรับน้ำหนักคอมเพรสเซอร์

รู้หรือไม่ว่าอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ อย่าง ยางบูท หรือยางรองแอร์ มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศในระยะยาว เพราะช่วยลดแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นกับคอมเพรสเซอร์ ระหว่างที่คอมเพรสเซอร์ทำงาน เมื่อผ่านไปนานวันเข้าอุปกรณ์ด้านใน เช่น คอยล์ร้อน จะเริ่มเสื่อมภาพ และยังช่วยลดเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน เวลาคอมเพรสเซอร์สั่นระหว่างเปิดแอร์ด้วย

เห็นได้ว่าการ ล้างแอร์ และการหมั่นดูแลรักษาความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว เพราะอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของคุณโดยตรง หากปล่อยปัญหาไปในระยะยาว ไม่ล้างเครื่องปรับอากาศ ฝุ่นด้านในอาจทำให้ตัวคอยล์ร้อน/เย็น เสื่อมสภาพ ทั้งนี้การใช้ยางรองเครื่องคอมเพรสเซอร์ หรือน้ำยาเติมแอร์ ก็มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานเช่นกัน ถ้าต้องการอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศอุปกรณ์ทำความสะอาดและอื่น ๆ สามารถหาซื้อออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าออนไลน์ของลาซาด้า

ที่มาข้อมูล: kapook , kapook , globalhouse , daikin , globalhouse