เปรียบเทียบ เครื่องปริ้น InkJet และ Laser แบบไหนคุ้ม

เครื่องปริ้น เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ไอทีที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา บรรดาครู นักเรียน ผู้ปกครองหรือแม้แต่คนทำงาน ที่ต้องทำงานแบบ work from home ต่างวิ่งวุ่นหาร้านค้าที่รับพิมพ์งานและแบบฝึกหัดเพื่อที่เด็กนักเรียนจะได้มีงานส่งคุณครูที่โรงเรียน ในขณะที่เทคโนโลยีการสื่อสารและส่งข้อมูลมีการพัฒนาไปมาก ทำให้เครื่องพิมพ์บางเครื่องไม่รองรับการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว เช่น การส่งไฟล์งานทาง Line, Messenger บนมือถือสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานด่วน

การที่มีเครื่องพิมพ์ หรือPrinterสักเครื่องติดบ้านไว้ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก โดยในวันนี้จะมาเปรียบเทียบ เครื่องพิมพ์ Inkjet กับ Laser Jet ว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงแนะนำ ปริ้นเตอร์ แบบไหนที่เหมาะสมและน่าซื้อไว้ใช้งานมากที่สุด

เครื่องปริ้น Inkjet คืออะไร

Printer Inkjet คือ เครื่องพิมพ์ที่ใช้น้ำหมึกในการพิมพ์ โดยส่วนใหญ่จะมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบได้แก่ แบบพิมพ์สีและแบบพิมพ์ขาวดำ ความโดดเด่นของ Printer Inkjet ก็คือจะใช้พลังงานน้อยและราคาที่ค่อนข้างถูก ซึ่งบางรุ่นราคาหมึกพิมพ์ 1 ชุด ยังราคาแพงกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทนี้อีก และข้อดีอีกอย่างของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้คือจะมีหมึกสำหรับกันน้ำให้เลือกใช้งานด้วย รวมถึงการใช้หมึกพิมพ์แบบ Tank หรือแบบเติมก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อกับเมมโมรี่การ์ดต่าง ๆ ได้ หรือจะสั่งพิมพ์ผ่านกล้องดิจิทัลโดยตรงก็ได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก 

หัวพิมพ์ของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทบางยี่ห้อจะแยกกับตลับหมึก บางยี่ห้อจะอยู่กับตลับหมึก ซึ่งทั้ง 2 แบบก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องของค่าใช้จ่ายในกรณีที่พบว่าหัวพิมพ์มีปัญหา 

เครื่องปริ้น LaserJet คืออะไร

Printer LaserJet เป็นเครื่องพิมพ์ที่ให้ความคมชัด ทำงานเร็ว ต้นทุนในการพิมพ์จะถูกกว่า ลักษณะของวัสดุที่ใช้พิมพ์จะเป็นผงสีดำ สามารถใช้ตลับหมึกพิมพ์แบบเทียบเท่าได้ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคุณภาพของหมึกพิมพ์ด้วย เพราะการทำงานของเลเซอร์เจ็ทนั้นจะเหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร โดยจะมีความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง หากผงหมึกไม่ได้คุณภาพจะทำให้ละลายเกาะติดบนกระดาษและตัวฟิล์มฟีดกระดาษซึ่งส่งผลให้กระดาษติดได้ สำหรับตลับหมึกของเลเซอร์เจ็ทจะเรียกว่าโทนเนอร์ (Toner) หากหมดจะต้องซื้อและเปลี่ยนใหม่เพราะในการเติมผงหมึกจะไม่สามารถเติมได้ด้วยตนเองเหมือนกับกรณีเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 

ข้อดี-ข้อจำกัด ของ เครื่องพิมพ์ ทั้งสองแบบ

เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท

ข้อดี

• ราคาเครื่องค่อนข้างถูก 
• บางรุ่นมีหมึกให้เติมด้วยตนเองได้
• ประหยัดค่าใช้จ่าย
• ปัจจุบันรองรับการใช้งานผ่านระบบเน็ตเวิร์ก ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
• บางรุ่นนอกจากงานพิมพ์ปกติแล้ว ยังมีความสามารถในการสแกน และถ่ายเอกสารอีกด้วย

ข้อจำกัด

• มีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อแผ่นค่อนข้างแพง
• พิมพ์ได้ช้า 
• เสียง่าย โดยเฉพาะหัวพิมพ์
• มักพบปัญหาหมึกไม่ออกอยู่เสมอ 
• หากไม่ได้ใช้งานนาน ๆ อาจทำให้หัวพิมพ์ตันเนื่องจากหมึกแห้งได้
• หากเครื่องพิมพ์ที่มีหัวพิมพ์แยกจากตลับหมึก หากหัวพิมพ์มีปัญหาอาจถึงขั้นต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ เพราะราคาในการเปลี่ยนไม่คุ้มค่าเท่ากับซื้อเครื่องใหม่
• ราคาหมึกพิมพ์ค่อนข้างแพง โดยเฉพาะเครื่องพิมพ์สี 

เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์เจ็ท

ข้อดี

• พิมพ์งานได้รวดเร็วกว่า
• มีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อแผ่นถูกกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
• มีตลับหมึกเทียบเท่าให้เลือกใช้งาน
• มีความทนทานกว่า
• มีความอเนกประสงค์มากกว่า ทั้งสแกน และถ่ายเอกสาร
• หมึกพิมพ์ใช้งานได้นาน เหมาะกับการทำงานเอกสารในสำนักงานมากกว่า

ข้อจำกัด

• เครื่องพิมพ์มีราคาค่อนข้างแพง จึงไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานแบบส่วนบุคคล
• ราคาโทนเนอร์แพงกว่าอิงค์เจ็ท ยิ่งถ้าเป็นเครื่องพิมพ์เลเซอร์แบบสี ราคาจะแพงกว่าเลเซอร์ขาวดำ 3-5 เท่า
• บางยี่ห้อไม่สามารถใช้โทเนอร์แบบเทียบเท่าได้ เพราะมีการกำหนดในเรื่องของชิปที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้วจะไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีก 
• หากใช้หมึกเทียบเท่าไม่มีคุณภาพ จะพบปัญหากระดาษติดได้บ่อย 

เลือกซื้อ เครื่องปริ้น อย่างไรดี

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อ Printer คือ งบประมาณ เพราะหากต้องการเครื่องพิมพ์ไว้ใช้งานที่บ้าน ไม่ต้องการคุณภาพมากเท่าใดนัก Printer InkJet แบบธรรมดาราคาประมาณ 1,000-2,000 บาท ก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว โดยตัวเครื่องอาจจะสีหรือขาวดำก็ได้ แต่ถ้ามีงบประมาณเหลือ ๆ และต้องการใช้งานที่อเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น การเลือกเครื่องพิมพ์แบบ All-in-one หรือ Multifunction ที่มีทั้งสแกน ถ่ายเอกสาร พิมพ์เน็ตเวิร์ก ดูจะเหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่า 

ถ้าเป็นงานสำหรับสำนักงาน เน้นความรวดเร็ว ใช้งานจำนวนมาก การเลือกใช้ เลเซอร์ปริ้นเตอร์ จะเหมาะสมและคุ้มค่ากว่าเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท

แต่ถ้าต้องการใช้งานในด้านของการพิมพ์รูปภาพที่มีความละเอียด การเลือกเครื่องพิมพ์ อิงค์เจ็ท ความละเอียดสูงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะการเลือกใช้กระดาษโฟโต้ ยิ่งทำให้งานพิมพ์ออกมามีคุณภาพมากกว่ากระดาษ A4 ธรรมดามาก 

นอกจากนี้ ควรพิจารณาในส่วนของเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์และการเชื่อมต่อด้วย เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากในปัจจุบันมีการส่งไฟล์งานผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google Drive, Line, e-mail, messenger เป็นต้น เครื่องพิมพ์ที่สามารถสั่งพิมพ์งานผ่านมือถือสมาร์ทโฟนได้จึงยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ทำให้การพิมพ์เอกสารสำคัญต่าง ๆ คมชัด สวยงามแบบมืออาชีพ ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพงานยิ่งขึ้น 

ที่มาข้อมูล: oxcomputer , fulllinecomputer , inkmanpata